"น้ำเกลือ"
สามารถนำมาเช็ดหน้าได้หรือไม่ ? คำถามนี้ยังคงก้องอยู่ในหัวของสาว ๆ
หลายคน แต่ก็มีสาว ๆ อีกหลายคนที่นิยมนำน้ำเกลือมาเช็ดหน้า
และใช้เช็ดทำความสะอาดหัวสิว
โดยเธอเหล่านั้นใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าแทนโทนเนอร์เลยก็ว่าได้
ส่วนผลที่ได้รับจะดีจริงสมคำเล่าลือหรือไม่
หรือเป็นแค่ความเข้าใจผิดของคุณสาว ๆ นั้น
วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ
"
นํ้าเกลือ"
ประกอบด้วยเกลือชนิดที่ใช้ผลิตยา 0.9% ผสมในน้ำกลั่นบริสุทธิ์
และผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง ไม่ผสมสารเคมีอื่นใด หรือสารกันบูด
จึงมั่นใจได้ ว่าจะไม่ทำให้เกิดการแพ้ ซึ่งสิวบนใบหน้า ถือเป็นแผลชนิดหนึ่ง
หากได้รับการดูแลทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ดีและสะอาด
เนื้อเยื้อจะสมานตัวได้ดี แผลจะหายเร็วและเกิดริ้วรอยแผลเป็นน้อย
ดังนั้นปกติแล้วการทำความสะอาดแผลในสถานพยาบาลจะใช้น้ำเกลือ 0.9%
ชนิดปราศจากเชื้อในการทำความสะอาดแผล ซึ่งจะไม่ระคายเคือง
ไม่ทำลายเนื้อเยื่อผิวทำให้แผลสะอาด และหายเร็ว อย่างไรก็ตาม
น้ำเกลือไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ แต่เป็นน้ำเกลือที่สะอาดมาก
เนื่องจากผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง
ในขวดจะไม่มีการปนเปื้อนเชื้อและสิ่งแปลกปลอม
เหมาะสำหรับใช้ทำความสะอาดผิวที่บอบบาง
รู้อย่างนี้แล้ว
เชื่อว่าสาว ๆ
หลายคนคงหันมาใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าแทนโทนเนอร์กันแล้วใช่ไหมล่ะคะ
เพราะนอกจากจะช่วยทำความสะอาดผิวที่บอบบางได้เป็นอย่างดี
ช่วยให้สิวหายเร็ว และทำให้เกิดรอยแผลเป็นน้อยลงแล้ว
ที่สำคัญราคาก็ยังน่ารักอีกด้วย ^^
สำหรับวิธีใช้นั้นก็ง่ายแสนง่าย หลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้ว
ใช้น้ำเกลือเทลงบนสำลีเช็ดบริเวณที่เป็นสิวหรือทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ให้แห้ง
จากนั้นจึงใช้ครีมบำรุงผิวหน้าตามปกติ
โดยไม่ต้องล้างน้ำเกลือออกด้วยน้ำเปล่าซ้ำค่ะ
ส่วนใครที่กังวลว่าใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าแล้วจะเหนียวเหนอะหนะไหม ?
หน้าจะแห้งเกินไปหรือเปล่า ? งานนี้บอกเลยว่า... ไม่มีปัญหา !
เพราะปกติความเข้มข้นของเกลือที่ 0.9%
จะเท่ากับน้ำในเซลล์ร่างกายหรือเซลล์ผิว จึงไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ
ส่วนความรู้สึกว่าผิวแห้งนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของผู้ใช้
โดยผู้ใช้ที่มีพื้นฐานหน้าแห้งอาจทำให้รู้สึกแห้งได้บ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น